เที่ยวไปเล่าไป สไตล์ นายมด

เที่ยวไปเล่าไป สไตล์ นายมด-2

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เสพติดการท่องเที่ยว แน่นอนว่าคุณจะต้องติดตามบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวไม่คนใดก็คนหนึ่งในโซเชียลมีเดียอย่างแน่นอน และคงต้องมีสักแว้บที่อยากจะลาออกจากงานประจำมาเป็นบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวซะเอง “บล็อกเกอร์ท่องเที่ยว” งานที่ฟังดูง่าย สบาย และสนุก จึงกลายเป็น “งานในฝัน” ของใครหลายคน แต่จริงๆ แล้วการเป็นบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวมันง่าย สบาย และสนุกจริงหรือ Phuket e-magazine จะพาคุณไปพูดคุยกับบล็อกเกอร์คนดังจาก 9mot.com เจ้าของเฟซบุ๊คแฟนเพจ นายมด คุณ ธิติพงศ์ กิ่งแก้ว

ก่อนจะมาเป็นบล็อกเกอร์

ผมเป็นคนภูเก็ต เรียนมัธยมที่ภูเก็ต โดยลึกๆ เป็นคนที่ชอบศิลปะมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ด้วยค่านิยมในสมัยนั้นถ้าเรียนดีหน่อยก็ต้องเรียนสายวิทย์ เพื่อที่จะเป็นวิศวกร เป็นหมอ คืออยู่ในกรอบที่ถูกปลูกฝังให้คิดแบบนั้น ผมเคยสอบเอนทรานซ์ได้คณะแพทย์ฯ มอ. แต่สละสิทธิ์มาเลือกคณะวิศวะฯ จุฬาฯ เรียนไปได้ 1 ปี ก็เริ่มรู้ว่าไม่ชอบทางนี้ ผมชอบวิทยาศาสตร์ เรียนได้คะแนนค่อนข้างดี แต่จะมีความสุขเมื่อได้ทำงานศิลปะ ผมชอบถ่ายภาพ เริ่มถ่ายภาพมาตั้งแต่เรียนมัธยม กล้องตัวแรกคือกล้องที่คุณพ่อซื้อให้คุณแม่ เราก็หยิบๆ จับๆ มาลองถ่าย เริ่มเรียนรู้เรื่องการถ่ายภาพด้วยตัวเองมาเรื่อยๆ ชีวิตในมหาวิทยาลัยถึงแม้ว่าจะไม่ชอบในสิ่งที่เรียนแต่ก็พยายามจัดการตัวเองจนจบมาได้ ระหว่างนั้นก็ทำสิ่งที่เราชอบไปด้วย คือทำกิจกรรม ถ่ายภาพ ท่องเที่ยว เขียนบทความส่งไปตีพิมพ์ในนิตยสารท่องเที่ยว ผมจะรับจ้างถ่ายรูปงานรับปริญญา หรือเวลามีกิจกรรมในมหาวิทยาลัย ก็จะไปถ่ายรูปแล้วอัดรูปมาขาย แล้วเอาเงินนั้นไปใช้ในการเดินทางท่องเที่ยว

พอเรียนจบ ก็ตัดสินใจกลับภูเก็ต มาเปิดร้านขายคอมพิวเตอร์ โดยที่ตอนนั้นไม่มีความรู้เรื่องการทำธุรกิจเลย ลองผิดลองถูก โดนโกงก็มี ขายคอมฯ ด้วย เปิดสอนคอมฯด้วย รับงานออกแบบป้ายด้วย เรียนรู้การใช้โปรแกรมต่างๆ ด้วยตัวเอง อาศัยมีหัวทางออกแบบอยู่บ้าง ประมาณปี พ.ศ.2547 อินเตอร์เน็ตเริ่มเข้ามา ผมก็เลยลองเปิดเว็บไซต์ คือ thephuket.com ด้วยความคิดว่าอยากให้คนมาเที่ยวภูเก็ต หลังจากนั้นเริ่มมีคนจ้างเขียนเว็บ เริ่มเป็นอาชีพ ก็เริ่มเบนเข็มมาทำงานด้านไอที จนกระทั่งมีโอกาสไปดูแลงานด้านไอทีให้สปาแห่งหนึ่ง ได้เรียนรู้การเขียนโปรแกรม ลองผิดลองถูก หลังจากนั้นลองทำอีกหลายอย่าง ทั้งขายของออนไลน์ ทำการตลาดออนไลน์กับชาวต่างชาติ ปัจจุบันทำงานเป็น e-marketing manager ที่ Andara resort & villas

จุดเริ่มต้นของการเป็นบล็อกเกอร์

น่าจะเริ่มจากตอนที่ทำเว็บ thephuket.com ซึ่งเราเอาข้อมูลเกี่ยวกับภูเก็ตและข้อมูลเรื่องท่องเที่ยวของเรามาใส่ไว้  เริ่มเข้าไปคุยกับเพื่อนๆ ในพันทิป สมัยนั้นยังเป็นฟอรั่มท่องเที่ยวเล็กๆ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของกลุ่มบลูแพลนเนตในปัจจุบัน ช่วงนั้นก็ถือว่าทำจริงจังแต่ยังไม่เป็นอาชีพ ปีที่คำว่าบล็อกเริ่มเข้ามาน่าจะประมาณปี พ.ศ. 2550 ผมเริ่มมีบล็อกเป็นของตัวเอง โดยการเขียนด้วยเวิร์ดเพรส ช่วงนั้นเรามีโอกาสท่องเที่ยวมากขึ้น อยากจะเก็บประสบการณ์การท่องเที่ยวเหล่านี้เอาไว้ อยากทำเป็นไดอะรี่ เก็บภาพถ่าย เก็บข้อมูลเพื่อบอกต่อคนอื่น เพราะก่อนไปเที่ยวเราหาข้อมูลเยอะมาก หลังจากนั้นประมาณ 1-2 ปี ก็มี 9mot.com และในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาก็เริ่มเป็นอาชีพ คือมีเอเจนซี่โฆษณาติดต่อเข้ามา เกิดจากคอนเท้นท์ที่เราสร้างไว้ มีคนกลุ่มหนึ่งมองเห็นว่ามันน่าจะมีประโยชน์กับธุรกิจของเขา การเขียนบล็อกเริ่มสร้างรายได้ให้เรา ทุกวันนี้ก็เลยกลายเป็นอาชีพรองที่เราสนุกกับมัน

อะไรคือแรงบันดาลใจในการเป็นบล็อกเกอร์

ความหลงใหลในการถ่ายรูปและการท่องเที่ยว ถ้าเราได้ถ่ายรูป เราอยู่กับมันได้แบบไม่มีคำว่าเบื่อ เราสนุกกับมัน

เครื่องมือในการทำงานสำหรับการเป็นบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวมีอะไรบ้าง

จริงๆ ไม่มีแบบแผนตายตัว ผมจะเน้นที่ความคุ้มค่า ผมเป็นคนชอบงานเนี๊ยบๆ อยากให้คนเห็นรูปสวยๆ เคยคิดว่ากล้องถ่ายรูปต้องรุ่นนั้นรุ่นนี้ ปรับกันมาเรื่อยๆ ตามงบประมาณ จนถึงจุดหนึ่งเริ่มคิดได้ว่ามันไม่ต้องเนี๊ยบทุกรูปก็ได้ เริ่มยืดหยุ่นขึ้น เริ่มเข้าใจว่ากล้องโทรศัพท์มือถือก็สามารถสร้างรูปดีๆ ได้ มันอยู่ที่การเล่าเรื่อง ภาพเบลอๆ อาจจะขายดีกว่าภาพชัดๆ การเป็นบล็อกเกอร์ เราต้องรู้จักลองอะไรใหม่ๆ เก็บรายละเอียดอะไรใหม่ๆ ที่เราไม่เคยสนใจ เช่น สถานที่นี้ไปเที่ยวเวลาไหนถึงจะสวย ถ่ายรูปมุมไหนสวย หรือร้านอาหารร้านไหนอร่อย ต้องเก็บรายละเอียดมากขึ้น เพราะบางอย่างที่เราไม่ชอบไม่อยากรู้ แต่คนอื่นอาจจะอยากรู้ก็ได้ เพราะเราเป็นบล็อกเกอร์ เราต้องเล่าเรื่อง ต้องรับผิดชอบมากขึ้น ซึ่งบางครั้งก็ต้องมาหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตเสริมทีหลัง เพื่อให้คอนเท้นท์ของเรามีประโยชน์มีความหลากหลายมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องเล่าเรื่องด้วยวิธีการของเรา การเป็นบล็อกเกอร์ต้องสนใจความคิดของคนอื่นมากขึ้น แต่ต้องไม่บิดเบือนความเป็นตัวเรา 

การเป็นบล็อกเกอร์ ทำให้สนุกกับการท่องเที่ยวมากขึ้นหรือไม่

จริงๆ ก็ทั้งใช่และไม่ใช่ การเป็นบล็อกเกอร์ทำให้เราเที่ยวสนุกมากขึ้น เพราะมันมีส่วนช่วยในการสนับสนุนเรา เช่น บางประเทศเราไม่เคยคิดจะไป แต่เมื่อมีคนมาเสนอว่า ลองไปประเทศนี้สิ มีตั๋วเครื่องบินให้ มีที่พักให้ เราก็มีโอกาสได้ไป ซึ่งมันอาจจะสนุกกว่าที่เราคิด เป็นประสบการณ์ที่เราคาดไม่ถึงก็ได้ แต่ในอีกด้านหนึ่ง มันก็อาจจะลดทอนความสนุกหรือความสุขในการท่องเที่ยวของเราบ้างในบางกรณี เช่น บางทริปที่ไม่ใช่สไตล์การเที่ยวในแบบของเรา ก็เป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยกันให้เข้าใจก่อนว่าแบบนี้ไม่ใช่แนวเรา แบบนี้เราไม่ถนัด

เป็นบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวมาหลายปี เดินทางมาแล้วกี่ประเทศ ประทับใจที่ไหนมากที่สุด 

ประมาณ 20 ประเทศ ถ้าถามว่าประทับใจหรือชอบที่ไหนที่สุดตอบยากมาก ประเทศที่ไปแล้ววิวสวยมุมถ่ายรูปสวยถูกใจที่สุดคือ สวิตเซอร์แลนด์ กับนิวซีแลนด์ เพราะธรรมชาติสวยมาก ตัดสินใจเลือกประเทศเดียวไม่ได้จริงๆ ถ้าใช้เกณฑ์ของผม คือผมชอบถ่ายรูปวิวธรรมชาติ ผมก็ว่า 2 ประเทศนี้สวยที่สุด แต่ถ้าเอาเกณฑ์อื่นมาวัดก็คงเป็นประเทศอื่น อย่างญี่ปุ่นก็เป็นประเทศที่เที่ยวได้อย่างสบายใจที่สุด เพราะมีความปลอดภัย

 

ในฐานะเป็นบล็อกเกอร์ท่องเที่ยว เดินทางมาหลายประเทศ มองจุดแข็งหรือจุดอ่อนของภูเก็ตซึ่งเป็นบ้านเกิด ในแง่มุมของการเป็นเมืองท่องเที่ยวอย่างไร 

จุดแข็งของภูเก็ต คือ ความคุ้มค่าและความหลากหลาย จุดแข็งของเราคือทะเล ทะเลบ้านเราเป็นทะเลอุ่น คุณอาจไม่เข้าใจว่าทำไมฝรั่งถึงชอบอาบแดด พวกเขาโหยหาสภาพอากาศแบบนี้ เพราะบ้านเขาอากาศติดลบ ไม่สามารถลงทะเลได้ อีกอย่างค่าเงินเราก็ถูกกว่าเขา ถึงแม้ใครๆ จะบอกว่าภูเก็ตของแพง แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติเขายังรับได้ เพราะเขาคิดว่ามันคุ้มค่า ภูเก็ตมีความหลากหลาย คุณอยากได้พักห้องราคา 300,000 ก็มี 300 ก็มี คุณจะหาอาหารแบบไหนก็มีหมดทุกอย่าง ที่สำคัญคือความเป็นคนไทย เวลาฝรั่งเขามาบ้านเรา เขารู้สึกได้ถึงน้ำจิตน้ำใจ คนไทยมีความน่ารัก มีความอยากช่วยเหลืออยู่ลึกๆ แม้ช่วยไม่ได้ก็อยากจะช่วย มีความอ่อนโยนไม่แข็งกระด้าง นิสัยแบบนี้หาไม่ได้จากที่อื่น ส่วนจุดอ่อน น่าจะเป็นเรื่องระเบียบวินัยโดยเฉพาะในเรื่องส่วนรวม ทำให้กฎหมายบางอย่างไม่สามารถบังคับใช้ได้อย่างชัดเจนเด็ดขาด เรายังขาดการจัดการที่มีประสิทธิภาพ และควรให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยในทุกๆ ด้าน

ถ้าให้เขียนบล็อกแนะนำการท่องเที่ยวภูเก็ต 5 สิ่งที่ห้ามพลาดในภูเก็ต สำหรับนายมดคืออะไร

หนึ่ง เมืองเก่ากับสตรีทอาร์ต มันสะท้อนความเป็นภูเก็ตได้ดี  สอง ผาหินดำ เป็นจุดชมวิวที่สวย คนยังเข้าถึงได้น้อย เพราะการเดินทางไปยาก สาม เกาะไม้ท่อน ในบรรดาเกาะทั้งหลายรอบๆ ภูเก็ต เกาะไม้ท่อนทั้งสวยและเดินทางไม่ไกล สี่ พระธาตุอินทร์แขวนจำลองที่วัดเกาะสิเหร่ มันสะท้อนความศรัทธาและข้างบนนั้นวิวสวยมาก ห้า จุดชมวิวกังหันลม วิวสวย คนไม่หนาแน่นจนเกินไป

ฝากถึงคนที่อยากเริ่มต้นเป็นบล็อกเกอร์ท่องเที่ยว

ต้องทำด้วยความรัก มีความสม่ำเสมอ  เป็นตัวของตัวเอง แต่ต้องมีความยืดหยุ่น มีน้องๆ หลายคนที่ลาออกจากงานประจำมาเป็นบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวอย่างเดียว ซึ่งก็ไปได้สวย สิ่งที่ต้องระมัดระวังคือเรื่องเงิน มันจะดึงเราออกนอกเส้นทาง คนที่ติดตามเราเขาจะรู้ว่ามันไม่เวิร์ค สุดท้ายคือต้องลงมือทำ และสนุกไปกับมัน

เฟสบุ๊ค เพจ : https://www.facebook.com/9MotPhotography/?hc_ref=SEARCH